เช็กด่วน! เสริมหน้าอกด้วย "ซิลิโคน" เกิน 10 ปี เสี่ยงแตก-รั่วซึม

เช็กด่วน! เสริมหน้าอกด้วย "ซิลิโคน" เกิน 10 ปี เสี่ยงแตก-รั่วซึม

เช็กด่วน! เสริมหน้าอกด้วย "ซิลิโคน" เกิน 10 ปี เสี่ยงแตก-รั่วซึม


ซื้อหวยออนไลน์เว็บไหนดี มาที่นี้เลย เว็บหวยออนไลน์ จ่ายจริง 900/95 มีหวยออนไลน์ให้เลือกซื้อมากมาย เปิดให้แทงหวยออนไลน์ตลอด 24 ชั่วโมง


ใครที่เสริมหน้าอกมามากกว่า 10 ปีแล้วยังไม่เคยไปตรวจกับแพทย์ ระวังเจอปัญหาซิลิโคนแตกหรือรั่วซึม จนทำให้ทรงหน้าอกเปลี่ยนไป

ซิลิโคนเสริมอกอายุเกิน 10 ปี เสี่ยงแตก-รั่วซึม

นพ.ธนัญชัย อัศดามงคล แพทย์เฉพาะทางด้านศัลยกรรมตกแต่งและผู้อำนวยการศูนย์ศัลยกรรมความงามโรงพยาบาลบางมด กล่าวไว้ว่า อาจเป็นเรื่องที่ใครหลายคนยังไม่ทราบว่า ซิลิโคนเสริมหน้าอกที่มีอายุเกิน 10 ปี ควรจะต้องมีการตรวจเช็ค เนื่องจากอาจเกิดการแตก (Silicone Rupture) หรือรั่วซึม (Gel Bleeding) ได้ 

เมื่อเป็นถุงซิลิโคนที่ได้มาตรฐานทางการแพทย์นั้น หากเกิดการแตกหรือรั่วซึมจริง สารที่อยู่ภายในจะไม่ทำให้เกิดอันตรายต่อร่างกายหรือสะสมจนเกิดโรคมะเร็ง แต่จะสามารถผ่าตัดแก้ไขได้ เพื่อล้างสารที่รั่วซึมหรือแตกออกให้หมดก่อนแล้วเลาะพังผืด (Capsulectomy) พร้อมกับการเปลี่ยนถุงซิลิโคนใหม่ แต่ในกรณีที่ถุงซิลิโคนแตกหรือรั่วซึมเล็กน้อย จะยังไม่ปรากฏอาการที่ผิดปกติใด

วิธีเช็กสภาพถุงซิลิโคนเสริมหน้าอก 

ทางการแพทย์จะแนะนำให้ตรวจเช็กถุงซิลิโคนด้วย Ultrasound Mammogram หรือ MRI ครั้งแรกหลังเสริมหน้าอกได้ 3 ปี จากนั้น จะแนะนำให้ตรวจซ้ำทุก 2 ปี เพื่อความมั่นใจ

อย่างไรก็ตามถุงซิลิโคนที่ใช้ในปัจจุบัน (6th Generation Breast Implant) โอกาสเกิดการรั่วซึมหรือแตก จะมีน้อยกว่าเมื่อ 10-30 ปีก่อน ซึ่งในผู้ที่เสริมซิลิโคนหน้าอกรุ่นปัจจุบัน ศัลยแพทย์จะไม่ได้แนะนำให้เปลี่ยนทุก 10-15 ปี แต่จะแนะนำให้ตรวจเช็คเป็นประจำตามมาตรฐานทางการแพทย์ เพื่อความปลอดภัย หรือหากเกิดกรณีที่ต้องแก้ไข ศัลยแพทย์จะได้วินิจฉัยเพื่อการแก้ไขได้อย่างเหมาะสม


















ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

5 สัญญาณเตือน "ซิลิโคนจมูก" ใกล้ทะลุ

ทำไมเราถึง “ปวดก้นกบ” และรักษาอย่างไร